ทัวร์อินเดีย ทัชมาฮาล อัครา ชัยปุระ

คุณสมบัติสินค้า:

หมวดหมู่ : INDIA

Share

วันที่1 กรุงเทพ-เดลลี-อัครา
01.00 พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 3 เคาน์เตอร์ 1-2ประตูทางเข้าหมายเลข 1-2 โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในด้านเอกสารและสัมภาระ
 03.50 นำท่านออกเดินทางเพื่อเข้าสู่เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG88 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
 06.25 นำท่านเดินทางมาถึงท่าอากาศยานเมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ( เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง ) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และ ศุลกากร
จากนั้น รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ณ เมืองเดลลี
นำท่านชมเมือง นิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย อาณาเขตของเดลีติดต่อกับรัฐหรยาณาทั้งสามด้าน และติดต่อกับรัฐอุตตรประเทศทางตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ 1,484 ตารางกิโลเมตร (573 ตารางไมล์) สำมะโนครัวปี 2011 ระบุว่าเดลีมีประชากรมากกว่า 11 ล้านคน มีประชากรมากเป็นอันดับที่สองของประเทศอินเดีย
จากนั้น ท่านผ่านชมประตูอินเดีย (India Gate) หรือชื่อเดิม อนุสรณ์สถานแห่งสงครามทั้งปวงของอินเดีย (All India War Memorial) เป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่ตั้งอยู่ในนิวเดลี ประเทศอินเดีย ประตูอินเดียสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารอินเดีย 70,000 นายของกองทัพบริติชอินเดีย ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในยุทธภูมิฝรั่งเศส แฟลนเดอรส์ เมโสโปเตเมีย เปอร์เซีย แอฟริกาตะวันออก กัลลิโปลิ และในสงครามแองโกล-อัฟกัน บนประตูมีการสลักนามเจ้าหน้าที่และทหารอีก 13,300 นายจากทั้งอินเดียและบริเตน[2][3] ถึงแม้จะสร้างเป็นอนุสรณ์สถานสงคราม แต่ลักษณะของประตูอินเดียนั้นสร้างขึ้นตามแบบอย่างของประตูชัย โดยเลียนแบบประตูชัยคอนสแตนตินในโรม มักถูกเปรียบเทียบเป็นประตูชัยฝรั่งเศส ปารีส และประตูสู่อินเดีย ในมุมไบ รอบประตูอินเดียยังเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพทหารนิรนาม และปัจจุบันถือว่าเป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย
จากนั้น นำท่านชมวัดอักชารดาห์ม (Akshardham) สิ่งมหัศจรรย์แห่งใหม่ของโลก วิหารอักชารดาห์มใช้เทคนิคการก่อสร้างตามแบบสถาปัตยศาสตร์โบราณ ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้มีความทนทานนานนับพันปี การแกะสลักหินแต่ละก้อนใช้มือคนแกะสลักอย่างเดียว ใช้เวลาสร้างเพียง 5 ปี ด้วยการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากพระประมุขสวามีมหาราช Pramukh Swami Maharaj องค์ปัจจุบัน มีอาสาสมัครช่วยงานมากกว่า 11,000 คนรวมทั้งสาธุ (พระสงฆ์ของนิกาย) ในจำนวนนี้เป็นช่างฝีมือประมาณ 7000 คนจากตระกูลช่างฝีมือชั้นยอดจากทั้งในอินเดียและต่างประเทศ อักชารดาห์มแห่งนี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากหนังสือกินเนสบุ๊คเวิร์ดเร็คคอร์ต ว่าเป็นศาสนสถานฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารเมืองเดลลี
บ่าย เดินทางจากกรุงเดลลีเข้าสู่ เมืองอัครา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(อัครา)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 2 อัครา-ชัยปูระ
06.00 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่าน ชมทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์....ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้
จากนั้น ชมพระราชวังอัคราฟอร์ด Agra Fort ... ป้อมปราการหินทรายแดง มรดกโลกของเมืองอัครา เป็นป้อมปราการประจำเมืองซึ่งสร้างเป็นกำแพงหินทรายสีแดง ตั้งตระหง่านสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอัคระ พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าชาร์เจฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ซึ่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหารมาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และยาว 2.5 กิโลเมตร ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบ โดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ท่านจะได้พบกับสถานที่ที่กษัตริย์ชาร์จาฮาถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนน์ พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666 ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารเมืองอัครา
บ่าย เดินทางจากเมืองอัคราเข้าสู่ เมืองชัยปูระ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
จากนั้น นำท่านแวะเข้าชม Chand Baori คือบ่อน้ำขั้นบันได ที่ตั้งอยู่ในรัฐ Rajasthan ทางตะวันตกของประเทศอินเดีย ถูกขุดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 โดยกษัตริย์ Chanda เดิมทีสถานที่แห่งนี้มีความร่ำรวยเป็นอย่างมาก จากการเป็นเส้นทางผ่านไปยังตะวันออกกลาง เมื่อมีผู้คนต่างอาณาจักรผ่านไปมา การค้าก็ได้เริ่มต้นขึ้นจนร่ำรวยพอที่จะสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้งปราสาท ราชวัง ป้อมปราการต่างๆ ด้วยเป็นประเทศเมืองร้อน ภูมิประเทศเต็มไปด้วยทะเลทราย จึงแห้งแล้งมาก ฝนตกปีละไม่กี่ครั้ง เมื่อกแล้วก็ซึมผ่านทรายไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาการขาดแคลนน้ำของชาวบ้านนี้ทำให้มหาราชาหาวิธีสร้างบ่อน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากน้ำมีความสำคัญในชีวิตประจำวัน การผ่อนคลาย การใช้ประกอบพิธีกรรม จนพูดได้ว่า หากขาดน้ำไปจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติได้
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(ชัยปูระ)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 3 ชัยปูระ
06.00 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านขึ้นรถจิ๊บ และ ชมป้อมปราการแอมเบอร์ (AmberFort) หรือพระราชวังแอมเบอร์ (Amber)”พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ สร้างอยู่บนเนินเขาสูงตรงตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 มาก่อน สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592 และเสร็จสิ้นลงในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้อมยังเป็นทะเลสาบ จึงเป็นปราการสำคัญเพื่อป้องกันข้าศึกได้อีกชั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของราชวงศ์กาญจวาหา อยู่หลายร้อยปี ก่อนมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จะตัดสินใจย้ายลงไปสร้างเมืองใหม่ยังชัยปุระ ภายในพระราช วังแอมเบอร์ฟอร์ท ระกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ที่เปิดให้นักท่อง เที่ยวเข้าชม ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในสมัยของมหาราชามาน ซิงห์ (Maharaja Man Singh) ใน ปี ค.ศ. 1592และได้มีการขยายต่อเติมโดยมหาราชาองค์ต่อๆมา
จากนั้น นำท่านชม พระราชวังหลวง“City Palace” ซึ่งพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของมหาราชาองค์ปัจจุบัน ซึ่งภายในมีหอดาราศาสตร์ ยันตระ มันตระของมหาราชา ไสว สิงห์ที่ 2 ผู้สร้างเมืองชัยปุระและ พิพิธภัณฑ์ ของมหาราชาแห่งชัยปุระในยุคก่อนๆ อาทิ พรม ภาพเขียน และที่โดนเด่นมากที่สุดคือ ฉลองพระองค์ของมหาราชา มโธ สิงห์ที่ 1 ที่มีขนาดใหญ่มากและฉลองพระองค์ปักดิ้นทองของมหาราณีที่หนักเกือบ 10 กิโลกรัม รวมถึงหม้อเงินใบยักษ์ 2 ใบ หนักราว 345 กม. สถาปัตยกรรมของพระราชวังแห่งนี้ผสมผสานกันระหว่างราชวงค์ชัยปุระกับโมกุล นิยมใช้หินอ่อนแกะสลักลวยลายปราณีตบรรจง อาทิ นกยูง ดอกไม้ และพระพิฆเนศได้อย่างอ่อนช้อยภายในชมพระตำหนักมูบารักมาฮาล (Mumarak Mahal) หรือเวลคัมพาเลซ (welcome Palace) โดยพระตำหนักมูบารักมาฮาลสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1899 เพื่อรับรองแขกบ้านแขกเมืองมีความโดดเด่นตรงการแกะสลักเสาหินอ่อนและประตูที่ทำแบบเท่ากันทุกสัดส่วน โดยตัวอาคารเป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบราชปุต อิสลาม และอังกฤษ ปัจจุบัน ตำหนักแห่งนี้ ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องแต่งกายของมหาราชาและมหารานีในแต่ละยุคนั้น เช่นกระโปรงปักด้วยดิ้นทอง เสื้อคลุมของมหาราชา ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีข้าวของเครื่องใช้ล้ำค่าในวังอีกหลายชิ้น
จากนั้น นำท่านแวะถ่ายรูป พระราชวังกลางน้ำ จาร์ มาฮาล สถาปัตยกรรมอลังการแห่งอินเดีย“Water Palace” ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar)สร้างขึ้นเมื่อไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาอราวัลลี เป็นทำเลที่ดีที่สุดในเมือง เพราะสามารถเห็นวิวได้โดยรอบพระราชวัง และตัวพระราชวังก็จะสะท้อนกับผืนน้ำเพิ่มความงดงามให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่จะมีแสงสะท้อนอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของพระราชวังนั้นมองภายนอกจะเห็นเพียงแค่สองชั้น แต่ความจริงแล้วที่นี่มีชั้นซ่อนอยู่ด้านล่างใต้น้ำอีกด้วยพระราชวังถูกสร้างครั้งแรกเพื่อจุดประสงค์เป็นที่พักผ่อนตากอากาศของพระราชา เพื่อเสด็จล่าสัตว์ ในบริเวณดังกล่าว แต่ในช่วงศตวรรษที่ 18 กษัตริย์แห่งอาร์เมอร์ได้ตัดสินใจสร้างเขื่อนล้อมรอบระหว่างภูเขาเพื่อป้องกันน้ำท่วม และตอนนั้นเองที่ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมส่วนหนึ่งของพระราชวัง ปัจจุบันที่นี่อนุญาตให้ผู้คนเข้าชมได้โดยทางเรือเท่านั้น และภายในวังยังมีภาพวาดที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี สถาปัตยกรรมภายนอกและภายในรวมถึงระเบียง มีการก่อสร้างอย่างวิจิตรงดงาม เป็นพระราชวังกลางน้ำอันสุดตา และถือเป็นสมบัติที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในประเทศ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารเมืองชัยปูระ
บ่าย นำท่านเข้าชม Nahargarh Fort ป้อมนาหรครห์ เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาอะระวัลลี โดยตั้งอยู่สูงตระหง่านเหนือนครชัยปุระ ในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย เมื่อร่วมกันกับป้อมอาเมร์และป้อมชยครห์แล้ว ทั้งสามปราการนี้เคยเป็นเสาหลักในการป้องกันการรุกรานจากข้าศึกต่าง ๆ ต่อชัยปุระ โดยแรกป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อว่า "สุทรรศนครห์" (Sudarshangarh) แต่ในภายหลังได้กลายมาเป็น "นาหรครห์" ซึ่งหมายความว่า "ถ้ำเสือ" โดยเชื่อกันว่าที่มาของคำว่า "นาหระ" นั้นมาจาก นาหระ สิงห์ โภมิยา (Nahar Singh Bhomia)[1] ซึ่งวิญญาณนั้นได้หลอกหลอนในระหว่างก่อสร้างและเป็นอุปสรรคสำคัญในการก่อสร้างป้อมแห่งนี้[2] จึงได้มีการสร้างศาลภายในบริเวณวัดเพื่อเป็นที่สถิตวิญญาณภายในป้อมแห่งนี้
จากนั้น อิสระช้อปปิ้งสินค้าเมืองราชสถาน ณ ตลาดฮาวามาฮาลบาซาร์ (Hawa Mahal Bazaar) ให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง อาทิ กำไร สร้อยคอ เสื้อผ้า ต่างๆมากมาย แบบชาวราชาสถาน
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(ชัยปูระ)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 4 ชัยปูระ-กรุงเทพ
06.00 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านชม พระราชวังแห่งสายลม “Hawa Mahal” (ถ่ายรูปด้านนอก) โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้นและมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง ซึ่งประกอบด้วยหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลมจำนวน 953 บาน โดยลายฉลุนั้นมีเพื่อนางในวังสามารถมองทะลุออกมาเห็นชีวิตภายนอกบนท้องถนนได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นจากด้านนอก เนื่องจากนางในเหล่านั้นต้องมีความเคร่งครัดในการคลุม “ปูร์ดาห์” (หรือ ผ้าคลุมหน้า)พระราชวังแห่งนี้สร้างโดยหินทรายสีชมพู
จากนั้น นำท่านชมหอดูดาวจันตาร์มันตาร์ (JantarMantar) จัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองชัยปุระโดยได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2010 สร้างและคิดค้นขึ้นโดยมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 ด้วยทรงมีความสนพระทัยและพระปรีชาในเรื่องดาราศาสตร์จึงได้ทรงรับสั่งให้สร้างหอดูดาวแห่งนี้ขึ้นมาพร้อมๆกับการก่อสร้างพระราชวังซิตี้พาเลซเพื่อใช้ดูความเคลื่อนไหวของพระอาทิตย์พระจันทร์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารเมืองชัยปูระ
บ่าย นำท่านชมประตูปาตริกา The Patrika Gate ประตูเมืองลำดับที่ 9 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งที่สวยงามมากๆ ซึ่งเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู การสร้างประตู้นี้ จึงมีการระดมความคิดในการสร้างให้ตรงตามประเพณีโบราณของเมือง ทำให้ประตูปาตริกา มี 9 โดม แต่ละซุ้มมีความกว้าง 9 ฟุต ประตูกว้าง 81 ฟุต ยาว 27 ฟุต สูง 108 ฟุต ล้วนมีเลข 9 เป็นฐานทั้งสิ้น และแต่ละซุ้มมีภาพวาดสีสันสวยงาม บอกเล่าประวัติศาสตร์ของแคว้นราชสถาน จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่สวยงามมากๆ
จากนั้น อิสระช็อปปิ้งที่ตลาด (Bapu Bazaar) เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของรัฐ ชัยปุระเป็นจุดที่มีร้านค้างานทองเหลืองอัญมณีสิ่งทอและอื่นๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองชัยปุระ และอิสระในการรับประทานอาหารค่ำ
จากนั้น ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินชัยปูระ
19.00 นำท่านเดินทางถึงท่าอากาศยานชัยปุระ เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
จากนั้น นำท่านเช็คอินที่เคาน์เตอร์ ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ
 22.35 นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสายการบิน ( Air Asia ) เที่ยวบินที่ FD 131


วันที่5 ชัยปูระ-กรุงเทพมหานคร
 04.15 สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้