มหัศจรรย์มุมไบ อาชันต้า ออรังกาบาด

คุณสมบัติสินค้า:

หมวดหมู่ : INDIA

Share

วันที่ 1 กรุงเทพ – มุมไบ/บอมเบย์ 
16.30 พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบิน Thai Lionเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียดและเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการต่อเครื่อง แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น ถือได้คนละ 1 ใบ อิสระในการรับประทานอาหารกลางวัน ณ สนามบินเพื่อสะดวกในการเช็คอิน
 19.55 ออกเดินทางสู่ เมืองมุมไบ สายการบินThai Lion เที่ยวบินที่ SL 218
 22.55 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองมุมไบ (เวลาประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1:30 ชั่วโมง) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อย
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(มุมไบ)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 2 มุมไบ-ถ้ำกันเหรี-เกาะเอเลเฟ่นต้า
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านแวะชมประตูสู่อินเดีย (Gateway India Of Mumbai) เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงท่าจอดเรือของกษัตริย์จอร์จที่ 5 และพระราชินีแมรีที่อพอลโลบันเดอร์ในการไปเยือนอินเดียในปีพ. ศ. 2454
จากนั้น นำท่านชม ถ้ำกันเหรี (Kanheri Cave) ซึ่งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติ Sanjay Gandhi หรือชื่อเดิม Borivali National Park ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 42 ก.ม.จากมุมไบ เมืองที่มีความวุ่นวายในมุมไบ แต่กลับมีอุทยานและถํ้า ที่ไม่ห่างไกลเมืองวุ่นวาย คําว่า “Kanheri” ซึ่งเป็นชื่อของถํ้านั้น มาจากภาษาสันสกฤตคําว่า “Krishnagiri” ซึ่งหมายถึงภูเขาสีดํา สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ถึง 9 ถํ้าแห่งนี้มี จํานวนทั้งหมด 109 ห้องซึ่งแต่งละห้องก็มีเรื่องราวความสําคัญต่างกันไป ถํ้าที่โดดเด่นคือ ถํ้าหมายเลข 3
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองมุมไบ
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ เกาะเอเลเฟ่นต้า เพื่อนั่งเรือเฟอรี่ ไปยัง ถ้ำเอเล่เฟ่นต้า (Elephanta Caves) หนึ่งในมรดกโลก นำท่านชมเทวาลัยถํ้าอันอลังการ เทวาลัยเหล่านี้ขุดเจาะในศตวรรษที่ 7 และ 8 งานประติมากรรมชิ้นเอก เป็นเทวรูปพระศิวะครึ่งองค์ สูง 5 เมตร มีสามเศียร แสดงปางผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทําลาย
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(มุมไบ)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 3 มุมไบ-หมู่บ้านซักผ้า-พระพิฆเนศ-วัดพระแม่ลักษมี-ช้อปปิ้ง
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น ทำท่านถ่ายรูปที่หมู่บ้านซักผ้า (Dhobi Ghat) สถานที่ซึ่งชาวตะวันตกขนานนามว่าเป็น Washing Laundry แหล่งซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่ต้องใช้ลูกจ้างในการซักผ้ามากถึงห้าพันคนต่อวัน มีจุดให้นักท่องเที่ยวเดินชมและถ่ายภาพด้านบนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมุมไบที่หาชมที่อื่นไม่ได้
จากนั้น นำท่านไหว้องค์พระพิฆเนศ ณ วัดสิทธิวินายัก (sithi vinayagar) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดขององค์พระพิฆเนศ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านสักการะ วัดพระแม่ลักษมี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย สร้างขึ้นในปี 1831 โดยพ่อค้าชาวฮินดู ภายในประดิษฐานเทวรูปทองคำ พระแม่ลักษมี (Mahalakshmi) ผู้ที่มากราบไหว้บูชาแห่งนี้ จะประสบแต่ความร่ำรวย ความสำเร็จ โชคลาภมากมาย , พระแม่กาลี (Mahakali) คือผู้ปกป้องเราจากสิ่งไม่ดี , พระแม่สุรัสวตี (Mahasaraswathi) คือผู้บันดาลความเฉลี่ยวฉลาด ปัญญาเป็นเลิศ การงานสำเร็จ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมของชาวอินเดียเดินทางมากราบไว้สักการะมากมาย
จากนั้น นำท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ Fashion Street ในมุมไบเป็นสวรรค์สำหรับนักช็อป ตั้งแต่เสื้อผ้าแบรนด์ดังไปจนถึงกระเป๋าที่มีสไตล์ มุมไบ ถนนที่พลุกพล่านไปด้วยนักช็อปที่รู้วิธีประหยัดเงิน คุณสามารถค้นหาทุกสิ่งที่เป็นที่นิยมในแหล่งช้อปปิ้งสุดล้ำเหล่านี้ในอินเดีย สถานที่ในอุดมคติสำหรับแฟชั่นนิสต้าที่รู้วิธีลงทุนในตู้เสื้อผ้าอย่างชาญฉลาด
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(มุมไบ)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 4 มุมไบ-ออรังกาบาด
04.00 เดินทางไปที่สนามบินมุมไบ เพื่อเดินทางไปยังเมืองออรังกาบาด
 07.05 ออกเดินทางสู่เมืองออรังกาบาด โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ AI 499(เวลาประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทย
1:30 ชั่วโมง)
 08.10 เดินทางถึงเมืองออรังกาบาด เป็นเมืองในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย เป็นศูนย์กลางการปกครองของอำเภอเอารังคาบาด และเป็นเมืองใหญ่สุดในภูมิภาคมราฐวาฑา และเป็นเขตเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของมหาราษฏระ ด้วยประชากร 1,175,116 คน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง เช่น ถ้ำอชันตาและถ้ำเอลโลราซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 และตั้งอยู่ชานเมืองเอารังคาบาด นอกจากนี้ยังมีถ้ำเอารังคาบาด, ป้อมเดาลตาบาด, ฆฤษเณศวรมนเทียร, มัสยิดจามา, หิมายัตบาฆ, ปัญจักกี และทะเลสาบซาลิม อาลี ในอดีตเอารังคาบาดมี 52 ประตูเมือง
จากนั้น รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารเมืองออรังกาบาด
จากนั้น นำท่านเข้าชมมรดกโลกแห่งที่สามถ้ำอชันต้า (Ajanta Cave) หมู่ถํ้าอชันต้า ซึ่งที่จริงก็คือวัดในพุทธศาสนา ที่เจาะและแกะสลักเข้า ไปในภูเขาอยู่เรียงกันเป็นหมู่รวม 30 ถํ้า เป็นถํ้ายุคแรก เก่าแก่มาก มีกําเนิดเริ่มแต่ก่อนคริสต์ศักราช ประมาณ 200 หรือ 150 ปี คือราวพ.ศ. 350 หรือ 400 และคาดว่าสร้างมาถึงปี พ.ศ. 1200 และถูกทอดทิ้งกลายเป็นป่ารกชัฏประมาณ 700- 800 ปี จนมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญในปี พ.ศ.2362 โดยทหารอังกฤษที่มาล่าสัตว์ หมู่ถํ้าอชันต้า เป็นถํ้าพุทธศาสนาล้วนๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสาย หีนยาน หรือ เถรวาท พุทธศาสนาที่ไปสู่เมืองไทย มีอยู่ 6 ถํ้าคือ ถํ้าที่ 8,9,10,12,13 และ 15 ซึ่งเป็นหมู่ถํ้าที่เก่าแก่ที่สุด ประมาณ พ.ศ. 400-600
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมส่วนที่เหลือ อีก 24 ถํ้า เป็นสาย มหายาน หลายถํ้าก็เป็นแบบผสม ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง ถํ้าเถรวาท กับ ถํ้ามหายาน ก็คือ ในพุทธศาสนาเถรวาทยุคแรกนั้นไม่มีพระพุทธรูป มีแต่พระสถูป ต่อมาตอนหลังๆ ก็มีพระพุทธรูปชัดเจนขึ้น ภายในถํ้าสลักเสลาเป็นเสาประดับลวดลายอันงดงาม พระพุทธรูป และเจดีย์ศิลาที่สกัด และตกแต่งขึ้น จากหินชิ้นเดียวกับพื้นและผนังถํ้าภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วย เทคนิค การเขียนภาพสามมิติอันน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปศิลา ที่แสดงอารมณ์พระพักตร์ต่างกันเมื่อแสงตก สะท้อนจากต่างมุม
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(ออรังกาบาด)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 5 ออรังกาบัต-ถ้ำแอลโลร่า
07.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านแวะชมป้อมดาราตสบาด (Daulatabad) ป้อมปราการโบราณรอบภูเขาดัลคีรีงซึ่เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ยารวะและถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ใน พ.ศ. 1839กลายเป็นเมืองหลวงอินเดียภายใต้การปกครองของกษัตริย์ มุสลิมอยู่พักหนึ่ง ก่อนถูกทิ้งร้างย้ายไปสร้างเมืองออรังกาบัด ชมซาก มัสยิดที่ยังเหลือซากเสาจํานวน106ต้น ชมป้อมปราการ พระราชวังบนเสา อายุกว่า 700 ปี
จากนั้น นำท่านเข้าถ้ำแอลโลร่า (Ellora Cave) สร้างในปีค.ศ.600-1000 หรือ พ.ศ.1100 –ประมาณ พ.ศ.1400 หมู่ถํ้านี้เป็นวัดและศาสนาสถานเจาะเข้าไปในภูเขา เช่นเดียวกับอชันต้า แต่สร้างขึ้นในสมัยหลัง หมู่ถํ้านี้มีถึง 3 ศาสนา คือ พุทธ ฮินดู และเชน มีทั้งหมด 34 ถํ้า และเป็นถํ้าพุทธอยู่ชุดแรก เริ่มจากทิศใต้ ถํ้า 1 ถึง12 ถํ้า13 ถึง 29 เป็นถํ้าของศาสนาฮินดู รวม17 ถํ้า และถํ้า 30-34 อีก 5 ถํ้า เป็นถํ้าของศาสนาเชน หรือศาสนามหาวีระในบรรดาหมู่ถํ้าทั้งหมด เทวาลัยถํ้าเขาไกรลาส (Kailasanatha Temple )นับเป็นเพชรนํ้าเอก (ถํ้า 16 ) การแกะสลักจะทําจากด้านบนสุด แล้ว ค่อยๆไล่ลงมา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมภาพแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามของเหล่าทวยเทพ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปองค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณตลอดทั้งเหล่านางเทพ อัปสร และอีกมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
14.00 ได้เวลาอันสมควรในการเดินทางกลับไปยังโรงแรม
ระหว่างทาง นำท่านแวะชม Bibi Ka Maqbara เป็นอนุสรณ์สถานใช้สำหรับฝังศพ ตั้งอยู่ในรัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของประเทศอินเดีย รัฐแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ติดต่อกับกับทะเลอาหรับทางทิศตะวันตก มีเมืองหลวงชื่อ มุมไบ สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลที่ 6 ในช่วงศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในแก่ Dilras Banu Begum ภรรยาคนแรกของพระองค์ ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับทัชมาฮาล เชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากทัชมาฮาล
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(ออรังกาบาด)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 6 ออรังกาบัต-มุมไบ
05.00 เดินทางไปที่สนามบินออรังกาบาต เพื่อเดินทางไปยังเมืองมุมไบ
 08.45 ออกเดินทางสู่เมืองมุมไบ โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ AI 400 (เวลาประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทย1:30 ชั่วโมง) อิสระในการรับประทานอาหารเช้าณ สนามบิน
 09.55 เดินทางถึงสนามบินเมืองมุมไบ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพร้อมรับสัมภาระ
จากนั้น นำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ฉัตรปาตีศิวะจีมหาราช วาสตูสังกราหาลายา (Chhatrapati Shivaji Maharaj Vastu Sangrahalaya) หนึ่งในไฮไลท์ของการมาเที่ยวมุมไบ ประเทศอินเดีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยอลังมากๆ ตัวอาคารถูกออกแบบในสไตล์อินโดซาราเซนิค โดยสถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างอังกฤษ ฮินดู และอิสลาม นอกจากความงดงามแล้ว ที่นี่คือแหล่งจัดแสดงประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปะชั้นดีของอินเดียรวมถึงทั่วเอเชีย มีสิ่งของจัดแสดงถึง 50,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นงานประติมากรรม งานเซรามิกโบราณ ผลงานศิลปะ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เดิมแล้วพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปี ค.ศ. 1922 ในชื่อ Prince of Wales Museum of Western India แต่ต่อมาได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อระลึกถึงกษัตริย์ศิวะจี ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมราฐาในช่วงศตวรรษที่ 16
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองมุมไบ
จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง ที่ Andheri Market เป็นหนึ่งในตลาดที่ดีที่สุดในเมืองมุมไบที่ซึ่งคุณสามารถไปช็อปปิ้งในราคาที่สมเหตุสมผลและราคาถูก มีสินค้าให้ท่านเลือกช้อปปิ้งมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตคาร
20.00 เดินทางไปยังสนามบินมุมไบ

วันที่ 7 มุมไบ-กรุงเทพมหานคร
 00.10 นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสายการบิน (Thai Lion Air) เที่ยวบินที่ SL 219
 05.45 สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้