วันที่ 1 กรุงเทพ-พุทธคยา
09.20 พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบิน Thaismile เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียดและเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการต่อเครื่อง แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น ถือได้คนละ 1 ใบ อิสระในการรับประทานอาหารกลางวัน ณ สนามบินเพื่อสะดวกในการเช็คอิน
12.20 ออกเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา โดยสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE327 รับประทานอาหารบนเครื่องบิน
14.00 ถึงสนามบิน เมืองคยา รัฐพิหาร (เวลาอินเดียช้ากว่าไทยประมาณชั่วโมงครึ่ง) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากรแล้ว
จากนั้น คณะออกเดินทางนมัสการนำชมสังเวชนีย สถานแหล่งที่ 1สถานที่ตรัสรู้ พระมหาเจดีย์พุทธคยา ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ นมัสการพระแท่นวัชรอาสน์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมและสระมุจลินทร์ ถ้านำกล้องถ่ายรูปเข้าบริเวณต้นโพธิ์ เสียค่าธรรมเนียมดังนี้ : กล้องถ่ายรูปธรรมดา100รูปี / กล้องวีดีโอ1000 รูปี
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(พุทธคยา)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 2 พุทธคยา – บ้านนางสุชาดา – เมืองนาลันทา หลวงพ่อองค์ดำ – เมืองราชคฤห์
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านชมบ้านนางสุชาดาหรือสุชาฏากุฏี ธิดากฎุมพีแห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคมผู้ถวายข้าวมธุปายาสอันประณีตแด่มหาบุรุษก่อนการตรัสรู้ ชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่ง แม่น้ำเนรัญชราบริเวณท่าสุปปติฏฐะ สถานที่พระมหาบุรุษได้อธิษฐานลอยถาดทองริมฝั่งแม่น้ำ เดินทางสู่ เมืองนาลันทา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
จากนั้น นำท่านชม มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเดิมเป็นสวนมะม่างของทุสสปาวริกเศรษฐีได้อุทิศถวายแก่พระพุทธเจ้าในยุคหลังที่กษัตริย์อินเดียราชวงศ์คุปตะทรงเข้ารับอุปถัมภ์ ชมสถูปปรินิพพานของพระสารีบุตร นำท่านสักการะหลวงพ่อองค์ดำที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองราชคฤห์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) มหานครมหาแห่งแคว้นมคธ จัดว่าเป็นนครใหญ่ 1 ใน 6 นครของอินเดียโบราณ ในหนังสือรามเกียรติ์เรียกเมืองนี้ว่า วสุมาตี
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองราชคฤห์
บ่าย นำท่านชมเขาคิชกูฏ (ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30 นาที) หนึ่งในเบญจคีรี ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชมมูลคันธกุฏี สถานที่สำคัญสุดที่ชาวพุทธเมื่อขึ้นเขาคิชกูฏต้องกำหนดไว้คือการไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ ณ มูลคันธกุฏี สถานที่ที่เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ชมถ้ำสุกรขาตา สถานที่ที่พระสารีบุตรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ นมัสการ ถ้ำพระโมคคัลลานะ กุฏีของพระอานนท์ นำท่านชม วัดชีวกัมพวันหรือวัดสวนมะม่วงโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลกและชมเรือนคุมขังพระเจ้าพิมพิสาร จากนั้นนำท่านชมวัดเวฬุวนารามมหาสังฆยิกาวาส วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาเดิมเป็นสวนไม้ไผ่ของพระเจ้าพิมพิสาร พระองค์ถวายเป็นอารามแด่พระพุทธเจ้าและเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระอริยสงฆ์ 1250 องค์ มีสถูปที่บรรจุพระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลานะและพระอัญญาโกญฑัญญะ พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่นานในพรรษาที่ 2 – 4
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(ปัฏนา)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 3 เมืองราชคฤห์ - เมืองไวสาลี – เมืองกุสินารา
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองไวสาลี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของอาณาจักรวัชชี หนึ่งใน 16 แคว้นของชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาลเคยเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญ พระพุทธองค์เสด็จ
เยี่ยมที่ไวสาลีครั้งแรกในพรรษาที่ 5 ชมกูฏาคารศาลาวัดป่ามหาวัน อารามที่กษัตริย์ลิจฉวีสร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในป่ามหาวันทางเหนือของอาณาจักรวัชชีในป่าหิมาลัยและพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในพรรษาที่ 5 ชมเสาอโศกที่มีรูปสิงห์อยู่ในลักษณะนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่สมบูรณ์ที่สุด ปัจจุบันเหลือเพียงซากโบราณสถานที่ประกอบไปด้วยสังฆาราม ห้องพัก ห้องประชุม ชมปาวาลเจดีย์ สถานที่พระยามารได้เข้ามากราบทูลขอให้พระองค์เสด็จปรินิพพานสถานที่พระพุทธองค์ทรงปลงอายุสังขาร พุทธวาจาในวันปลงอายุสังขาร “สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ชนเหล่าใดทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งพาล ทั้งบัณฑิต ทั้งมั่งมี ทั้งขัดสน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า”
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองไวสาลี
บ่าย ออกเดินทางสู่เมืองกุสินารา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) นครแห่งมหาปรินิพพาน เคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นมัลละ 1 ในอาณาจักรแห่งมหาชนบท 16 แคว้นของอินเดียส่วนเหนือ เป็นสถานที่ปรินิพพาน สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ สถานที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ เป็นฐานแห่งแสงสว่างทางศรัทธาและปัญญาที่มั่นคง
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(กุสินารา)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 4เมืองกุสินารา มหาปรินิพพานสถูป พุทธวิหารปรินิพพาน มกุฏพันธเจดีย์ – เมืองลุมพินี
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านกราบสักการะสังเวชนียสถานแห่งสุดท้ายที่มหาปรินิพพานสถูป สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละคู่ เป็นพุทธสถานที่พระพุทธเจ้าประทานการบวชให้สาวกองค์สุดท้าย เป็นที่ตรัสเทศนา ปัจฉิมโอวาทสุดยอดแห่งพระธรรมคำสอนคือความไม่ประมาท ชมพระสถูปปรินิพพาน นำท่านชม พุทธวิหารปรินิพพาน ซึ่งภายในพระวิหารเป็นปฏิมากรรมพระพุทธปางปรินิพพานเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ที่กำลังเสด็จดับขันธปรินิพพานโดยมีนางมัลลิกา พระอนุรุทธ พระอานนท์อยู่ในภาวะโศรกเศร้า ชมสถูปพระอานนท์ ที่สร้างขึ้นบริเวณที่สันนิษฐานว่าพระอานนท์ยืนร้องไห้ ชม พราหมณ์เจดีย์ ซึ่งเป็นสถานที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ และกราบสักการะ มกุฏพันธเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองกุสินารา
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ ลุมพินีวัน (ใช้เวลาเดินทาง 4 – 5 ชั่วโมง) ในเขตประเทศเนปาล ผ่านเมืองโครักข์ปูร์และผ่านเมืองชายแดนโสเนาวลีของอินเดียเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะของเนปาลสถานที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ถึงพรมแดนอินเดีย-เนปาล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเดินทางเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะ
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(ลุมพินี)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 5 เมืองลุมพินี มหาสังฆารามอนุสรณ์ลุมพินี วัดไทยลุมพินี – เมืองสาวัตถี
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านชม มหาสังฆารามอนุสรณ์ สถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ นำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่สวนลุมพินี ชมมายาเทวีวิหาร ภายในมีรูปพระนางสิริมหามายาเทวีแกะสลักด้วยหินเป็นรูปพระพุทธมารดายืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละอยู่พร้อมกับพระสนมและข้างหน้าเป็นรูปเจ้าชายสิทธัตถะกุมารกำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว ชม สระสรง
สนานธารโบกขรณี ชมเสาศิลาจารึกที่พระเจ้าอโศกมหาราช ปักไว้ตรงที่ประสูติ ของพระสิทธัตถราชกุมาร โดยมีอักษรพรหมีจารึกไว้ ชมวัตถุสถานเสนาสนะสงฆ์และเจดีย์ สถานที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้สร้างไว้ เป็นพุทธบูชาตลอดมาไม่ขาดสายตั้งแต่โบราณกาล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองลุมพินี
บ่าย หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองสาวัตถี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง) ในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล 1 ใน 16 แคว้น เป็นเมืองที่ใหญ่พอกับเมืองราชคฤห์และพาราณสี เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายและเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา รวมทั้งเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนามั่นคงที่สุด ปัจจุบันเมืองนี้เหลือเพียงซากโบราณสถาน ชมวิถีชีวิตชนบทของประเทศอินเดียระหว่างเดินทาง
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(สาวัตถี)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 6 เมืองสาวัตถี วัดเชตวัน กุฎิพระพุทธเจ้า พระโมคคัลลา พระสิวลี – เมืองพาราณสี
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่าน ชมวัดเชตวันวิหาร เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นวัดที่พระพุทธเจ้ารวมทั้งพระอรหันต์ได้จำพรรษาอยู่นานที่สุดถึง 19 พรรษา สร้างโดยอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐีเป็นชาวเมืองสาวัตถีไปค้าขายที่เมืองราชคฤห์ได้พบพระบรมศาสดาที่สีตะวันเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธธรรม เมื่อกลับมาจึงไปขอซื้อป่าไม้ของเจ้าเชตเพื่อสร้างอารามถวาย กล่าวกันว่าต้องขนเงินมาปูพื้นที่ให้เต็มสวนจึงจะซื้อที่ดินมาสร้างวัดถวายแด่พระพุทธเจ้าได้เพราะในสมัยนั้นดินแดนทุกแห่งเป็นของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ นำท่านกราบสักการะต้นโพธิ์พระอานนท์ซึ่งถือว่าอายุกว่า 2500 ปีซึ่งเป็นอายุยาวนานที่สุดในโลกร่วมกับต้นโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระประเทศศรีลังกา สักการะมูลคันธกุฏีของพระพุทธเจ้า กุฎิพระโมคคัลลา กุฎิพระสารีบุตร กุฎิพระสิวลี กุฎิพระอานนท์ และสถูปที่บรรจุสารีริกธาตุของพระอรหันต์ ชมบ่อน้ำที่พระพุทธเจ้าใช้เป็นที่สรงน้ำตลอดระยะเวลาที่จำพรรษาอยู่
จากนั้น นำท่าน ชมบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เศรษฐีองคมนตรีที่ปรึกษาเศรษฐกิจของพระเจ้าปเสนทิโกศล ชมบ้านปุโรหิตบิดาขององคุลีมา, เนินดินที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองสาวัตถี
บ่าย หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองพาราณสี หรือ วาราณสี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง) ดินแดนแห่งการแสวงบุญชำระบาปของชาวฮินดู มรดกโลกที่มีชีวิตสี่พันปีของอินเดียและเป็นเมืองหลวงแคว้นกาสี มีแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี จัดเป็นเมืองสุทธาวาสที่สถิตแห่งศิวเทพและถือว่าเป็นเมืองอมตะของอินเดีย เป็นที่แสวงบุญทั้งของชาวฮินดูและชาวพุทธทั่วโลก
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(พาราณสี)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 7 เมืองพาราณสี ล่องเรือแม่น้ำคงคา – เมืองสารนาท ป่าอิลิปตนมฤคทายวัน - พุทธคยา
04.00 นำท่าน ล่องเรือในแม่น้ำคงคา ซึ่งชาวฮินดูเชื่อถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากมวยผมขององค์พระศิวะ (แม่น้ำนี้ไหลมาจากที่ราบสูงทิเบตเทือกเขาหิมาลัย ประเทศจีนและเนปาล) ให้ทุกท่านได้ลอยกระทง ณ แม่น้ำคงคา ชมพิธีบูชาพระอาทิตย์ พิธีกรรมริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ (พิธีเผาศพริมแม่น้ำคงคาของศาสนาฮินดู)
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
จากนั้น นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองสารนาท (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชม สถูปเจาคันธี ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ที่ปัญจวัคคีย์ได้พบกับพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ชม ธรรมราชิกสถูป เป็นสถูปที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาก่อน ชมมูลคันธกุฏี สถานที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาแรกและพรรษาที่ 12
ชมยสเจดีย์ สถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมให้กับยสกุลบุตร นำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิที่ ธัมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทายวันสถานที่แสดงปฐมเทศนา ธรรมจักกัปปวัตนสูตรโปรดเบญจวัคคีย์ทั้งห้า ชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ จัดแสดงและรักษาโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้ในบริเวณสารนาถเช่นพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ เทวรูป เครื่องใช้สอยในยุคนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิมากรรมที่เป็นเลิศคือพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งดงามยิ่งนัก สิงห์อันเป็นตราราชการแผ่นดินของอินเดีย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองสารนาท
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่เมืองคยา ( ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชม )
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย ณ โรงแรม...(พุทธคยา)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ 8 พุทธคยา - กรุงเทพ
06.00 บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
จากนั้น นำท่านเดินทางกราบลาต้นพระศรีมหาโพธิ์ และสวดมนต์ภาวนา
11.00 บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมืองพุทธคยา
12.00 ออกเดินทางสู่ สนามบินพุทธคยา
15.00 ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยสายการบินไทยไสมล์ เที่ยวบินที่ WE328
19.35 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯ พร้อมความประทับใจและอิ่มบุญเติมเต็มพลังชีวิต