ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์แห่งอินเดีย แคชเมียร์ เดลี

คุณสมบัติสินค้า:

หมวดหมู่ : INDIA

Share


วันที่ 1 กรุงเทพ-เดลลี(ประเทศอินเดีย)-ศรีนาคา
01.00 คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4  ประตู 3 เคาน์เตอร์ สายการบิน SPICEJET (SG) โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้ความสะดวกแก่ท่าน
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
               -กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน
               -วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้าเป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml.
 03.50 นำท่านสู่เมืองเดลลี (New Delhi) ประเทศอินเดีย (India) โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG88 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
 06.25 นำท่านเดินทางมาถึงท่าอากาศยานเมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ( เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง ) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และ ศุลกากร
อิสระรับประทานอาหารเช้า ณ สนามบินเดลลีเพื่อสะดวกในการเช็คอินต่อเครื่องไปยังเมืองศรีนาคา
จากนั้น ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระออกเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อต่อเครื่องเข้าสู่เมืองศรีนาคา
 11.40 นำท่านสู่เมืองศรีนาคา(แคชเมียร์) โดยสายการบินภายในประเทศ (vistara) เที่ยวบินที่ UK 643ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม30 นาที
 13.10 เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา (Srinagar) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพร้อมรับสัมภาระแล้วนำท่านเดินทางสู่โรงแรมเพื่อทำการเช็คอิน
จากนั้น บริการอาหารกลางวัน  ณ ภัตตราคารเมืองศรีนาคา
จากนั้น นำท่านเข้าเช็คอินที่โรงแรม เก็บสัมภาระและพักผ่อนตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านล่องเรือสิคารา(เรือพายแบบแคชเมียร์) ชมความงดงามทะเลสาบ ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพของเทือกเขาหิมะที่ล้อมรอบ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชม.) รอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำ ทะเลสาบใสสวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในทะเลสาบดาล เป็นชีวิตที่คู่กับสายน้ำอันเงียบสงบ โดยมีเรือเป็นพาหนะสำคัญของการสัญจรในทะเลสาบกว้างใหญ่ แต่งแต้มสีสันด้วยสวนผักลอยน้ำ และตลาดน้ำยามเช้าที่มีชีวิตชีวาพอดู ชีวิตของชาวแคชเมียร์จึงดำเนินไปไม่แตกต่างชาวเอเชียอื่น ๆ ที่มีแม่น้ำ ลำคลอง เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิต และท่านจะเพลินเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายให้ท่านได้เลือกซื้อในราคาตามความสามารถได้เวลาสมควรพายเรือกลับที่พัก .....      
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ...

วันที่ 2 ศรีนาครา-กุลมาร์ค-ศรีนาคา
06.00 บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมเรือ
จากนั้น ออกเดินทางโดยรถจิ๊บมุ่งหน้าสู่ กุลมาร์ค (Gulmarg) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 -3 ชั่วโมง กุลมาร์ค(Gulmarg) สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในแคชเมียร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ “กุลมาร์ค”เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาล และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม ชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่าทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเล   ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย และมีป่าสนเป็นฉากหลัง  ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย……
จากนั้น ไฮไลท์ของกิจกรรมและการท่องเที่ยวที่กุลมาร์ค นำท่านขึ้นเคเบิลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา) ขึ้นกระเช้ากอนโดล่าเป็นเคเบิลคาร์ไปเฟส1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวของหิมะที่สวยงามพบเห็นหมู่บ้านยิปซี  และหมู่บ้านของคนท้องถิ่น มองลงไปข้างล่างต้นสนระหว่างทางและหิมะที่สวยงามมาก เห็นวิวทิวเขาของเทีอกเขาหิมาลัยเมื่อถึงสถานีลงจากกระเช้าแล้ว ท่านจะพบลานหิมะขนาดใหญ่...อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพคู่กับภูเขาหิมะ สวยงามรอบทิศทาง หากฟ้าเปิดสามารถมองเห็นยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส....ถ่ายรูป และเล่นกิจกรรมต่างๆในบริเวณนี้...สนุกสนานกับกิจกรรมนั่งเลื่อนหิมะหรือสกีได้ระหว่างฤดูใบไม้ผลิ มี.ค.-เม.ย. "กุลมาร์ค." เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก  และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนุ่งที่คุณไม่ควรพลาด ( ให้อิสรภาพตามเวลานัดหมาย) รายการเสริม...สำหรับบางท่านต้องการไปอีกจุดชมวิวท่านสามารถขึ้นกระเช้าไปยัง เฟสที่K2 ได้ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ เฟสที่K2ไม่เหมาะสำหรับท่านที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือมีโรคประจำตัวเนื่องจาก K2 จะมีสภาอากาศที่เบาบางกว่าปกติ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ เมืองกุลมาร์ค
บ่าย ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับสู่ศรีนาคาตามเส้นทางเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 -3 ชั่วโมง
จากนั้น นำท่านเข้าเยี่ยมชม จามามัสยิด (Jama Masjid) เป็นมัสยิดที่มีรูปทรงแปลกตา ยอดมัสยิดจะแหลมๆเป็นเอกลักษณ์ พอเราเข้าไปยืนอยู่กลางลานที่ล้อมรอบด้วยมัสยิดรูปทรงแปลกตานี้ อารมณ์เหมือนอยู่  ฮอกวอตส์เลยทีเดียว (โรงเรียนเวทมนตร์ในหนังเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์) บรรยากาศภายในมัสยิดเงียบสงบ ที่นี่ตั้งอยู่ที่ Nowhatta ใจกลางเมืองเก่าในศรีนาคา เป็นมัสยิดที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมือง สร้างโดยสุลต่านสิคานดาร์ (Sultan Sikandar) ในปี ค.ศ.1400 เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Indo-Saracenic มีเสาไม้ 370 ต้น ด้านนอกล้อมรอบด้วยตลาดเก่า ทุกๆวันศุกร์จะมีชาวมุสลิมนับพันมารวมตัวกันเพื่อสวดภาวนา สามารถจุคนได้ถึง 30,000 คน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมพักผ่อนตามอัธยาศัย โรงแรมบ้านเรือ...(ศรีนาคา)ที่พักโรงแรมเรือ DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
 
วันที่ 3 ศรีนาคา-พาฮาลแกม-ศรีนาคา
07.00 บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมเรือ
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่พาฮาลแกม ออกเดินทางจากศรีนาคาสู่ หมู่บ้านพาฮาแกม (Pahalgam)  หรือหุบเขาแกะ แห่งแคชเมียร์เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ อยู่ห่างจากศรีนาการ์ออกไปอีก 90 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่ภาพยนตร์นิยมมาถ่ายทำกันที่นี่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหมือน “สวิตเซอร์แลนด์” พาฮาลแกม คือในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาวเย็น น้ำในลำธารเย็นเฉียบ แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าและสินค้าต่างๆโดยเฉพาะ หญ้าฝรั่น (Saffron) มีสรรพคุณลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย มีขายอยู่ทั่วไปทั่วทั้งแคชเมียร์แต่ที่พาฮาลแกมคือแหล่งปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด มีคุณภาพดีกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรม ปิกนิก ตกปลา ขี่ม้าชมวิวรอบภูเขาหมู่บ้านที่อยู่บนที่มีความสูง 2,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
ระหว่างทาง ชมแวะจอดรถถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามสุดที่หยุดกดชัตเตอร์เลยทีเดียว.. …และสองข้างทางท่านจะผ่านพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่หลากหลาย เช่นหมู่บ้านที่ทำ ครกหิน หมู่บ้านที่ทำไม้แบดสำหรับกีฬาคลิกเก็ต ที่เราจะพบเห็นชาวแคชเมียร์เล่นกีฬาประเภทนี้ได้ตามสนามทั่วไปไม้แบดนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในและนอกเมือง แต่จะพบเห็นได้มาก นอกจากนี้ จะได้เห็นทุ่งโล่งๆ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคม ท้องทุ่งแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกหญ้าฝรั้น หรือ Saffron ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะดอกจะเป็นสีม่วง ว่ากันว่าเกสรของหญ้า ฝรั้นมีสรรพคุณในการช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ดีตลอดสองข้างทางชมทิวทัศน์ที่สวยงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน  ณ เมืองพาฮาลแกม
จากนั้น นำท่านอิสระชมเมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) ที่นี่ คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งหากคุณยังไม่เชื่อก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น……คำว่า พาฮาลแกม หมายถึง หมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ (Village of Shepherds) หรือ หุบเขาแกะ และด้วยทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่งของพาฮาลแกม....ดินแดนแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักสร้างภาพยนตร์ จนกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียง ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย โปรแกรมแนะนำ ...ท่านที่หลงใหลในธรรมชาติ สามารถขี่ม้าชมความงามอย่างไกล้ชิดมากขึ้น (ไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดสอบถามรายละเอียดจากหัวหน้าทัวร์)

จากนั้น ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับสู่ศรีนาคาตามเส้นทางเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมพักผ่อนตามอัธยาศัย โรงแรมบ้านเรือ...(ศรีนาคา)ที่พักโรงแรมเรือ DELUXE HOUSE BOAT อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 4 ศรีนาคา-เดลลี-อัครา
06.00 บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมเรือ
จากนั้น ชมสวนนิชาท (Nishat) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ตั้งอยู่ริมทะเลสาบดาล มีภูเขา Zabarwan ซึ่งตั้งเป็นฉากหลัง
ชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ JEHANGIR เพื่อภรรยา Nur Jehan และเมืองศรีนาคา แคชเมียร์ เป็นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาว จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ดอกทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล
ฤดูการท่องเที่ยวที่สวยงาม : ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในแคชเมียร์ (เดือนเมษายน-กันยายน) จะมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกไม้และสวนสวย โดยสวนที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ สวนโมกุล ที่สร้างในสมัยของราชวงศ์โมกุลแทบทั้งสิ้น สำหรับต้นไม้ที่มีความสวยงามและโดดเด่น คือ ต้นชีน่า หรือต้นเมเปิ้ล ซึ่งใบของต้นไม้นี้มีสีแดงเพลิงสวยงาม และใบจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน  ณ เมืองศรีนาคา
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางกลับสู่เมืองเดลลี
ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระออกเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อต่อเครื่องเข้าสู่เมืองเดลลี (ตามเวลาท้องถิ่น)
13.20 นำท่านสู่เมืองเดลลี โดยสายการบินภายในประเทศ (Indigo)  ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม30 นาที
15.00 เดินทางถึงเมืองเดลลี ตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับสัมภาระเรียบร้อย
จากนั้น นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองอัครา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
ค่ำ นำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย  ณ โรงแรม...(อัครา)ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 5 อัครา-เดลลี-กรุงเทพ
06.00 รับประทานอาหารเช้า  ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่าน ชมทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์....ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้
จากนั้น ชมพระราชวังอัคราฟอร์ด   Agra Fort ... ป้อมปราการหินทรายแดง มรดกโลกของเมืองอัครา เป็นป้อมปราการประจำเมืองซึ่งสร้างเป็นกำแพงหินทรายสีแดง ตั้งตระหง่านสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอัคระ พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าชาร์เจฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ซึ่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหารมาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และยาว 2.5 กิโลเมตร ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบ โดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ท่านจะได้พบกับสถานที่ที่กษัตริย์ชาร์จาฮาถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนน์ พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666 ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคารเมืองอัครา
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองเดลลี  (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
17.00 นำท่านรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (ใกล้สนามบินแดลลี)
จากนั้น ได้เวลาอันสมควรในการนำท่านเดินทางสู่สนามบินเดลลีเพื่อนำท่านเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
 21.20 ออกเดินทางสู่กรุงเทพ ฯ โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG87 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

วันที่ 6 เดลลี-กรุงเทพมหานคร
 03.00 เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้